รอยเตอร์ - จากเอกสารของรัฐบาลที่รอยเตอร์ได้เห็นพบว่าในร่างแผนพลังงานฉบับแก้ไข เวียดนามได้เพิ่มเป้าหมายการใช้พลังงานจากถ่านหินสำหรับปี 2030 ขณะที่เป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียนถูกปรับลดขนาดลง ความเคลื่อนไหวที่ส่งผลกระทบต่อโครงการระดมทุนเพื่อพลังงานสะอาดของประเทศร่ำรวย
ร่างแผนพลังงานฉบับปรับปรุงล่าสุด ลงวันที่ 11 พ.ย. และเผยแพร่โดยกระทรวงอุตสาหกรรมของเวียดนาม มีขึ้นในขณะที่ผู้เจรจาด้านสภาพภูมิอากาศจากกลุ่ม G7 ล้มเหลวที่จะบรรลุข้อตกลงทางการเงินกับเวียดนามในการเป็นหุ้นส่วนการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรม ที่การประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศ COP27 ที่สิ้นสุดลงในอียิปต์เมื่อวันอาทิตย์
ร่างแผนพลังงานฉบับล่าสุดเปลี่ยนเป้าหมายของร่างที่เพิ่งเผยแพร่ไปเมื่อเดือนก่อนที่จะชะลอการเติบโตในการใช้ถ่านหินภายในสิ้นทศวรรษนี้ ซึ่งการลดลงอย่างมีความหมายของกำลังการผลิตถ่านหินจะเกิดขึ้นในปี 2045 เท่านั้น
เวียดนาม ที่เป็นหนึ่งในผู้ใช้ถ่านหิน 20 อันดับแรกของโลก ได้เห็นการถกเถียงยืดเยื้อในหมู่รัฐบาลต่างๆ เกี่ยวกับแผนพัฒนาพลังงานสำหรับทศวรรษนี้ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมในสัปดาห์และเดือนข้างหน้า ซึ่งสิ่งนี้จะเพิ่มความซับซ้อนให้งานของผู้เจรจาด้านสภาพภูมิอากาศ นำโดยนักการทูตของสหภาพยุโรป ที่หวังจะบรรลุข้อตกลงกับเวียดนามในระหว่างการประชุมสุดยอดในกรุงบรัสเซลส์เดือนหน้า
ภายใต้สถานการณ์ล่าสุดของรัฐบาลเวียดนาม ถ่านหินจะยังคงเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่สุดของประเทศไปจนกระทั่งปี 2030 ด้วยกำลังผลิตติดตั้งมากกว่า 36 กิกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ 11 แห่ง ที่จะสร้างขึ้นในปีต่อๆ ไป ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 21 กิกะวัตต์ในปี 2020 และ 30 กิกะวัตต์ในปี 2025
อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งกำลังการผลิตพลังงานถ่านหินจะลดลงเหลือน้อยกว่า 28% ภายในสิ้นทศวรรษ จาก 34% ในปี 2020
ในร่างแผนพลังงานเดือน ต.ค. รัฐบาลเวียดนามได้ตั้งเป้าที่จะจำกัดการผลิตจากพลังงานถ่านหินอยู่ที่ประมาณ 30 กิกะวัตต์ภายในสิ้นทศวรรษ ตามเอกสารที่รอยเตอร์ได้เห็น
ทั้งนี้ การใช้ถ่านหินเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกนับตั้งแต่การรุกรานยูเครนของรัสเซียในปลายเดือน ก.พ. ที่ยังส่งผลให้ราคาเชื้อเพลิงฟอสซิลพุ่งสูง
ที่มา : MNG ONLINE วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565