เมื่อเร็วๆ นี้มีการศึกษาจากทีมวิจัยนานาชาตินำโดยนักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศของมหาวิทยาลัยโมนาช ประเทศออสเตรเลียรายงานว่า การสูญเสียน้ำแข็งในภูมิภาคแอนตาร์กติกา บริเวณขั้วโลกใต้ เกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ และคาดว่าเหตุการณ์นี้จะดำเนินต่อไปอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดยั้ง แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะอยู่ภายใต้การควบคุมก็ตาม
ทีมวิจัยแสดงผลลัพธ์ใหม่จากการบางลงของธารน้ำแข็งในทะเลรอสส์ แห่งมหาสมุทรแอนตาร์กติกบ่งบอกว่า การสูญเสียน้ำแข็งอย่างกะทันหันเป็นระยะทาง ๒๒๐ ม. เกิดขึ้นในอัตรา และระยะเวลาที่ใกล้เคียงกันในธารน้ำแข็งหลายแห่งที่มีมาตั้งแต่ตอนกลางสมัยโฮโลซีนเมื่อ ๗,๕๐๐ – ๔,๕๐๐ ปีก่อน แม้จะมีลักษณะภูมิประเทศที่ซับซ้อน ซึ่งมีธารน้ำแข็งทั้ง ๕ แห่งแสดงถึงการลดระดับน้ำอย่างฉับพลัน โดยเกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคในตอนกลางสมัยโฮโลซีนนั่นเอง
เมื่อเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลในภูมิภาคดังกล่าว และการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของมหาสมุทร ข้อมูลการวิจัยระบุว่าภาวะโลกร้อนมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการถอยร่นของพื้นดินและดึงน้ำแข็งให้เร่งตัวขึ้น อันเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนของพืดน้ำแข็งในทะเล
(ภาพจาก : Pixabay/CC0 Public Domain)
ไทยรัฐฉบับพิมพ์
26 ต.ค. 2563 10:01 น.